พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี อู่เรือหรือโรงเก็บเรือแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางกอกน้อย ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อู่เรือและเรือพระราชพิธีบางส่วนถูกระเบิดได้รับความเสียหาย เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลงสำนักพระราชวังได้ดำเนินการสำรวจตรวจสอบสภาพของเรือพระราขพิธีในปีพุทธศักราช 2490 พบว่ามีเรือประเภทลายทองที่ยังคงสภาพดีจำนวน 12 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรืออสุรวายุภักษ์ เรืออสุรปักษี เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือชลวิมานไชย เรืออนงคนิกร เรือทองขวานฟ้า และเรือทองบ้าบิ่น อีกส่วนหนึ่งเป็นเรือที่ชำรุด แต่ช่วงโขนเรือยังอยู่ในสภาพดีจำนวน 8 ลำ ได้แก่ เรือสง่างามกระบวน เรือทวยเทพถวายกร เรือศรีประภัศรไชย เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือเอกชัยเหินหาว และเรือเอกชัยหลาวทอง สำนักพระราชวังเห็นควรว่า ควรมอบเรือพระราชพิธีเหล่านี้ให้กรมศิลปากรเป็นผู้ดูแลรักษา เนื่องจากเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ กรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการซ่อมโรงเก็บเรือและเรือพระราชพิธี ต่อมาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2495 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโรงเก็บเรือพระราชพิธีริมคลองบางกอกน้อย และทรงบันทึกภาพเรือพระราชพิธีต่าง ๆ ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรว่า “การรักษาไม่ดี ปล่อยให้ผงละอองและหยากไย่จับ ความสกปรกจะเกิดเป็นกรดทำให้ของผุเสียหาย” แสดงถึงความใส่พระทัยในเรื่องการอนุรักษ์เรือพระราชพิธีในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์